เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายน 2563 เวลา 13.30-15.00 น.ณ ห้อง 2503 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล นายเชษฐา มั่นคง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ได้เข้าร่วมประชุม เรื่องข้อเสนอในการช่วยเหลือแม่และเด็กที่ตกทุกข์ได้ยากและเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ผู้เข้าร่วม มีผู้เข้าร่วมดังนี้ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายก ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2 ท่าน ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 4 ท่าน ส่วนภาคประชาสังคม มีคุณธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง คุณเชษฐา มั่นคง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กและเครือข่ายด้านเด็ก คุณบัณฑิต แป้นวิเศษ คุณชลีรัตน์ แสงสุวรรณ ผู้จัดการมูลนิธิพิทักษ์สตรี คุณบุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์ นักวิชาการสถาบันทางสังคม และเครือข่ายแรงงานหญิง คุณพัชรี ไหมสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายสตรี4ภาค เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือแก่ผู้หญิงและเด็ก ให้ทันท่วงทีในสถานการณ์โควิด-19
ที่ผ่านมาภาคประชาชนได้มีการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งการที่ภาคประชาสังคมจะมีการช่วยเหลือนั้นจะมีการสอบถามเรื่องสิทธิและการเข้าถึง ผู้ที่รับการขอความช่วยเหลือนั้นได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นหรือไม่ เพื่อเป็นฐานข้อมูล แต่ยังมีเด็กและครอบครัว รวมถึงประชาชนบางกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือแต่ภาคประชาสังคมยังไม่สามารถช่วยเหลือได้จึงเกิดการเข้าหารือในครั้งนี้ ว่าจะมีการช่วยเหลือย่างไร
ข้อเสนอข้อที่ 1 ขอให้นายกรัฐมนตรีจัดเวทีความร่วมมือภาครัฐ เอกชน องค์กรเด็กสตรีเพื่อขอความร่วมมือภาคธุรกิจเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก โดยท่านรองนายกขอให้ พม. เป็นหลักและดำเนินการจัดมหกรรมที่ทำเนียบ เชิญท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และทำ MOU ร่วมกัน
ข้อที่ 2 ที่ขอให้นายกจัดสรรงบประมาณ บำบัดฟื้นฟูจิตใจให้พ่อแม่และเด็กที่ได้รับผลกระทบวิกฤติโควิด-19 และผลกระทบด้านอื่นๆ ซึ่งท่านรองนายกฯวิษณุ เครืองามจะเป็นผู้รับไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อที่ 3 ที่ขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเตรียมความพร้อม พ่อแม่ตกงาน ในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ และแผนการอบรมทักษะอาชีพการทำงานที่ชุมชนรองรับ ท่านรองนายกขอให้ พม.นำกลับไปดำเนินการ
- ส่วนเรื่องของงบประมาณนั้นท่านรองนายกรัฐมนตรีจะไปหารือกระทรวงการคลัง
- นอกจากนี้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานพิเษช่วงโควิด-19 โดยมีส่วนร่วมกับภาคประชาสังคมเพื่อให้ทันกับสถานการณ์การช่วยเหลือโดยมีระยะเวลา 6 เดือน