
นายเชษฐา มั่นคง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก และคณะทำงานขับเคลื่อนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กร ได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเสนอแนวนโยบายการกระจายอำนาจเพื่อจัดสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า โดยมีข้อเสนอดังนี้
ข้อเสนอต่อพรรคการเมือง เรื่อง การระจายอำนาจ กับสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า
เหตุผลที่ต้องจัดสวัสดิการเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า
การพัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนเป็นช่วงวัยที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยเสริมสร้างให้เด็กเรียนรู้และมี พัฒนาการสมวัย เป็นรากฐานสำหรับการเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศ มีการศึกษาวิจัย จำนวนมากที่ยืนยันว่า การจัดสวัสดิการให้แก่เด็กเล็กเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
สถานการณ์ความท้าทายในปัจจุบัน
● อัตราการเกิดของเด็กลดลงเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุดปี 2567 มีเด็กเกิด 461,421 คน หรือคิดเป็นอัตรา เจริญพันธุ์รวมที่ร้อยละ 1.03 ซึ่งต่ำมาก (โดยอัตราเจริญพันธุ์รวมที่สมดุลของประชากร ควรอยู่ที่ ร้อยละ 2.1 )
● ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อการตัดสินใจมีบุตรน้อยลง ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรสูง ขาดสถานเลี้ยงดูเด็กที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและเป็นสวัสดิการจากรัฐ ใกล้บ้าน เกิดความไม่สมดุล ระหว่างการทำงานและการเลี้ยงดูบุตร
● พัฒนาการเด็กเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ หญิงตั้งครรภ์จึงควรได้รับเงินอุดหนุนเพื่อเป็นสวัสดิการ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระการดูแลครรภ์ แต่ประเทศไทยยังไม่มีสวัสดิการนี้
● ปัจจุบันมีเงินอุดหนุนเด็กเล็กเดือนละ 600 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่สนับสนุนครอบครัวใช้จัดหาอาหาร และสิ่งของจำเป็นต่อการดูแลเด็ก แต่การเลี้ยงดูเด็กมีค่าใช้จ่ายสูงกว่านี้มาก เงินจำนวนนี้จึงน้อยเกินไป นอกจากนี้ ยังไม่จัดสวัสดิการแบบถ้วนหน้า การใช้หลักสงเคราะห์คนจน คัดกรอง ทำให้ยังมีเด็ก ยากจนจำนวนมากที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนเด็ก
○ มีเด็กเล็กอายุ 0-6 ปี ทั้งหมด 3.2 ล้านคน แต่มีเด็กเพียง 2.3 ล้านคน ที่ได้รับเงินอุดหนุนเด็ก เดือนละ 600 บาท
○ เด็กยากจนร้อยละ 34 ไม่ได้รับเงินอุดหนุนเด็ก
● การจัดบริการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยหรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกรูปแบบ มีความสำคัญในการช่วย ดูแลเด็กเล็กให้ได้เรียนรู้และมีพัฒนาการสมวัย รวมทั้งเอื้อให้ผู้ปกครองมีเวลาไปประกอบอาชีพ หารายได้ แต่เด็กเล็กจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงบริการดังกล่าว
○ มีเด็กเล็กอายุ 0-7 ปี ก่อน ป.1 ประมาณ 4.2 ล้านคน แต่มีเด็กเพียง 2.3 ล้านคน ที่เข้าถึงบริการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก 3 เดือน ถึง 2 หรือ 3 ปี
● ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วง 2-4 ปีส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ซึ่งยังมีข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาบริการให้มีคุณภาพมากขึ้นได้ เนื่องจาก
○ ความล่าช้าในการดำเนินการตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ พ.ศ. 2542 ที่มีเป้าหมายให้ อปท. มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 35% ของรายได้สุทธิรัฐบาล แต่ปัจจุบันยังอยู่ที่ประมาณ 29 % นอกจากนี้ งบที่จัดสรรมาส่วนหนึ่งมีเงื่อนไขว่าต้องทำ ภารกิจที่ส่วนกลางกำหนด ทำให้ อปท. มีรายได้ไม่เพียงพอ และขาดอิสระในการบริหาร ทำภารกิจตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งการจัดหารายได้เพิ่มเติมเอง
○ มีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบที่กำหนดโดยคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ และกรมส่งเสริม การปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การจัดรถรับส่ง อาหารเช้า การไม่สนับสนุนงบประมาณในการรับเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี เป็นต้น
○ มีข้อจำกัดด้านบุคลากรพัฒนาเด็ก ทั้งคุณวุฒิที่เหมาะสมและความมั่นคงในการทำงาน
○ เวลาเปิด ปิด ในการบริการ ยังไม่สอดคล้องกับเวลาในการทำงานของพ่อแม่ผู้ปกครอง
● เด็กเล็กจำนวนมากมีพัฒนาการล่าช้า หรือเป็นเด็กพิเศษ หรือเด็กพิการ เช่น ออทิสติก พิการทาง สติปัญญา ฯลฯ ซึ่งต้องการบริการที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป เพื่อให้พวกเขาได้รับการเรียนรู้และพัฒนา จนสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุด แต่บริการพิเศษเหล่านี้ยังมีไม่ทั่วถึง ทำให้
○ เด็กไม่ได้รับการคัดกรองและตรวจรักษาตั้งแต่เด็กยังเล็ก ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสพัฒนาได้ดีกว่า
○ เด็กไม่ได้เข้ารับบริการในศูนย์การศึกษาพิเศษสำหรับเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ เพราะ จำนวนศูนย์ฯมีน้อย และผู้ปกครองไม่สามารถรับภาระด้านค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง และเสีย รายได้จากการประกอบอาชีพ รวมทั้งบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ไม่เพียงพอ
● ความท้าทายใหม่ๆที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากสงคราม เช่น น้ำท่วม และการใช้ อาวุธสู้รบบริเวณชายแดน ล้วนส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเด็กเล็ก ทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่การ บริหารจัดการภัยพิบัติเหล่านี้ยังขาดมิติด้านสวัสดิการเด็กเล็ก
● เด็กบนผืนแผ่นดินไทยทุกคน แม้มีข้อจำกัดด้านสัญชาติไทย ยังขาดโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อพรรคการเมือง
1) เพิ่มเงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาเด็กเล็กและหญิงมีครรภ์แบบถ้วนหน้า
a) เงินอุดหนุนเด็กเล็ก เดือนละ 3,000 บาท
b) เงินอุดหนุนหญิงตั้งครรภ์อายุ 5-9 เดือน เดือนละ 3,000 บาท
2) เร่งรัดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีงบประมาณ อำนาจหน้าที่ และบุคลากรที่เพียงพอสำหรับการจัดสวัสดิการให้เด็กเล็กได้ดีขึ้น และทั่วถึงตามความจำเป็นโดยการแก้ไขกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
11 ธันวาคม 2568
#มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก

