จะสุขแค่ไหนถ้าได้ช่วย

จะสุขแค่ไหน..ถ้าช่วยให้เด็กมีเป้าหมายในชีวิต

“เพราะที่เราอยู่คือชุมชนแออัด  ใครๆ ก็เรียกบ้านเราว่าสลัม” เสียงสะท้อนของเด็กๆในชุมชนวัดดวงแขคุยกัน เมื่อมีผู้ใหญ่ถามถึงบ้าน

 

เนื่องจากสภาพชุมชนวัดดวงแขเป็นชุมชนแออัดในเมือง ที่มีการไหลเวียนของคนตลอดเวลา  ชุมชนจึงเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับปัญหายาเสพติดมิได้    และเพื่อที่จะหารายได้มาจุนเจือครอบครัว พ่อแม่ต้องออกไปทำงานรับจ้างหรือค้าขายตั้งแต่เช้าจนพลบค่ำทุกวัน    ฉะนั้นจึงไม่ต้องถามถึงเวลา   ที่ต้องคอยดูแล เอาใจใส่ลูก  ปัญหาครอบครัวแตกแยกจึงมักจะเป็นปัญหาที่ควบคู่กันไปของชุมชนแออัดเมือง  เด็กขาดคนคอยให้คำปรึกษาให้คำแนะนำ เมื่อพบเจอพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากในชุมชนเด็กก็ไม่สามารถแยกแยะดี  ร้ายได้  นำไปสู่ปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวและรุนแรง

 

“เด็กชุมชนดวงแขโดยส่วนใหญ่จะขาดเรื่องทักษะชีวิตด้านการเข้าสังคม  การปฏิบัติตัว เรื่องความมั่นคงทางจิตใจ อารมณ์ เด็กจึงมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว เรียกร้องความสนใจสูง นำไปสู่ความรุนแรง  นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมการเลียนแบบจากสื่อ เพื่อน  และเลียนแบบพฤติกรรมเรื่องเพศจากพ่อแม่โดยมีการนำมาใช้กับเพื่อนต่างเพศ  โดยไม่รู้ว่าพฤติกรรมเช่นนั้นไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก”เจ้าหน้าที่ศูนย์ดวงแขกล่าว

 

 

เพราะสิ่งที่ให้….สร้างคุณค่าในตัวเด็ก

 

ศูนย์พัฒนาเด็กดวงแข มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) จึงเป็นเสมือนบ้านหลังที่สอง ที่เด็กมักจะมาขลุกตัวทำกิจกรรมพัฒนาตนเองกับเจ้าหน้าที่เสมอ    นอกจากนี้ทางศูนย์ฯ ยังเปิดบ้านให้บุคคลภายนอกเข้ามาทำกิจกรรมกับเด็กๆ เช่น นักศึกษา องค์กรและหน่อยงาน  ซึ่งการเข้ามามีส่วนร่วม ทำให้เด็กมีโอกาสได้สัมผัสกับสังคมใหม่ที่แตกต่างไปจากสังคมที่ตนอยู่  เด็กได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม ได้เห็นต้นแบบที่มีความต่างไปจากคนที่อยู่ในชุมชนโดยรอบของเขาที่เขาเคยเห็นในชีวิตประจำวัน

 

 “การเข้ามาทำกิจกรรมของนักศึกษา นอกจากจะทำให้เด็กได้ความในสิ่งที่พี่มามอบให้ เด็กยังรู้สึกได้รับความรัก  รู้สึกถูกเอาใจใส่ รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ซึ่งจะเป็นหนึ่งวันที่เด็กมีความสุข  และยังทำให้เด็กได้เห็นต้นแบบที่ดี  เขาได้รู้จักคำว่านักศึกษา และอยากจะเป็นเหมือนพี่ๆที่เขายกให้เป็นต้นแบบ อยากเป็นนักศึกษา  อยากจะเป็นช่างภาพ อยากเป็นครู อยากเป็นนักร้อง ทำให้เด็กมีเป้าหมายในชีวิต ว่าต่อจากนี้ตัวเองจะเดินไปทางไหน ใช้ชีวิตอย่าไงจึงจะเป็นไปตามสิ่งที่คิด   ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่เด็กจะหลุดออกมาจากวงโคจรอบายมุขในชุมชน  นี่คืออานุภาพของการให้  ให้ความรู้ ให้ความรัก และให้ต้นแบบที่ดีในชีวิตเขา ”  

 

 

“ การให้ ”  ไม่ใช่เรื่องใหญ่  ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองมากมาย ขอแค่มีหัวใจที่อยากจะให้ อยากจะแบ่งปัน  เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้รับได้  “รออะไร มาลองเป็นผู้ให้กัน”